เชื่อสิ บางทีคุณก็ไม่อยากมีความทรงจำมากดีนักหรอกนะ.....
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า...นามธรรมที่มีผลต่อชีวิตของเรามากที่สุดอย่างหนึ่ง
ก็คือ ความทรงจำ สิ่งนี้เปรียบเสมือนผ้าขาว ที่บริสุทธิ์และไวต่อการสัมผัส
ไม่ว่ามันจะสัมผัสถูกสีอะไร ถูกฝุ่น หรืออื่นๆ แต่น่าแปลก ที่มันไม่ไวต่อการซักล้างเหมือนกับที่มันเปื้อนอะไรได้ง่ายๆ
วันนี้ผู้เขียนทักทายคนๆหนึ่ง
คนที่ผู้เขียนรู้จักเมื่อจะว่านานก็ไม่ จะว่าไม่นานก็ไม่ใช่ แต่ก็ไม่ได้คุยกันมาหลายเดือนล่ะ
ผลคือ เขาจำผู้เขียนไม่ได้ แต่นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ความทรงจำอื่นๆของผู้เขียนเริ่มเคลื่อนไหว...เบาๆ
หลังจากนั้นผู้เขียนล็อคอินเข้าเฟซบุ๊ค...อีกอันที่นานๆทีจะใช้มัน
จะเรียกมันว่าที่แห่งความทรงจำก็เป็นได้... มีบางคนบอกว่า คนที่เราไม่พบกันสิบปี
เจ้านี่ทำให้เราได้เจอกัน สำหรับผู้เขียนแล้ว
เชื่อว่า “มันก็แล้ว แต่คนจะใช้ ไม่ใช่เหรอ” ที่ๆรวมคนที่ผู้เขียนเคยรู้จัก
“คนเรามีทางของตัวเอง”
เป็นคำพูดติดปากของผู้เขียนคำพูดหนึ่ง ผู้เขียนยังหาข้อแย้งคำพูดนี้ไม่ได้ ก็ยังเชื่อตามนี้
ก้าวทุกๆก้าวที่เราข้ามผ่านไป
อดีตคือเบื้องหลังที่เราทิ้งไว้ คนเรามีทางของตัวเองก็จริงอยู่
แต่คนเราก็เดินบนแผ่นดินแผ่นเดียวกัน มีบ้างที่เส้นทางจะตัดกัน ทำให้ต้องเผชิญหน้า
ต้องทำความรู้จักกัน มันเป็นอะไรที่ดูเหมือนสุ่มในบางครั้ง
ถูกออกแบบไว้แล้วในบางที ก็สุดแล้วแต่เราจะมอง...
บางคนก็อยากจะลืมมันเสียจริง
เจ้าสิ่งที่เรียกว่าความทรงจำนี่ อาจอ้างได้ว่า มันทำให้เราเจ็บปวด ทำให้เราเสียใจ
“ก็ไม่มีใครชอบความเป็นจริงนี่น่า” ชีวิตกับความฝันขาดกันไม่ได้หรอก
แต่เจ้าความทรงจำนี่ อาจทำให้เกิดความกลัวและปิดกั้นมันเอาไว้ วิธีที่เราจะลืมนั่น
ผู้เขียนคงไม่รู้ อาจมีแค่เวลาเท่านั้นที่ทราบได้
“มันเป็นแค่ส่วนหนึ่ง
ในชีวิตของเรา เมื่อเรายอมรับการมีอยู่ของมัน แล้วมันก็จะอยู่กับเราอย่างสงบสุข”
นั่นแหละความทรงจำ
อาจมีบางคนบอกว่า
ใช่สิ ผู้เขียนมีสิทธิ์อะไรมาบอกให้ยอมรับ มันเป็นไปไม่ได้
“ไม่มีสิทธิ์หรอก
ก็แค่หนึ่งทางออก สำหรับผู้ท่องไปในกาลเวลา ก็แค่นั้นเอง”
*********
ขอให้มีความสุขกับความทรงจำครั้งเก่า และจงอย่าลืมว่า
สิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ คือการสร้างความทรงจำครั้งใหม่
บทความนี้อุทิศให้แก่บุคคลในความทรงจำ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต
อ่านแล้วจะร้องไห้ นึกถึงความจำน่าเศร้าๆของตัวเอง
ตอบลบ