วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2555

มนุษย์ 1 ไทม์ไลน์แห่งการยึดมั่น


มนุษย์ 1 ไทม์ไลน์แห่งการยึดมั่น

             ไม่ได้เขียนไรน่าอ่านๆ นานมากมายเลย วันที่น้ำไม่ไหลและอากาศในตอนเย็นสุดอบอ้าวจนน่าเหลือเชื่ออันที่จริงมันเป็นวันที่น่าหงุดหงิดมากเลย แต่หงุดหงิดไปก็เท่านั้นล่ะเนอะ เกริ่นๆไปงั้นแหละ สาระไม่ต้องมากเนาะ อื้ม ^ ^
มนุษย์เราเกิดมาพร้อมความฝัน ความปรารถนา ท่านทั้งหลายลองสังเกตดูนะครับว่า เด็กทารกทุกคนที่เกิดมา เขาจะกำมือไว้แน่นแล้วพยายามร้องไห้ออกมา เชื่อไหมล่ะครับ ไม่ต้องการให้เชื่อหรอกนะ มันเหมือนอุปนิสัยคนเรา ผู้ใหญ่ เด็ก เหมือนหมดเลย
เอ้า เหมือนยังไง??? เด็กไร้เดียงสานะนั่นอ่ะ
เหมือนที่เขากำมือแน่น เพราะตอนนั้นเขาทำได้แค่นั้น โตมาหน่อยใครเป็นพี่มีน้องจะรู้ดี เหมือนเค้าจะแย่งชิงเราไปหมด โตมาหน่อยในโลกเรียนประถม แข่งกันจัง โตขึ้นมาอีก ความรักไงล่ะ มันคือการแย่งชิงขนานแท้เลยทีเดียว แต่บางท่านบางคนยังไม่สนใจหรอก รักรึกอะไรกัน... อะไรล่ะที่สน อนาคต การเรียน การแข่งขัน การยึดถือเอาที่สูงกว่า ความทะเยอะทะยานอยาก... ต่อมาก็โตเป็นผู้ใหญ่ เรียนจบใหม่ แน่นอนล่ะครับ วิ่งหางานกันให้วุ่น ใครเด็กฝากเด็กท่านก็สบายไป ใครตัวคนเดียว แค่สองมือ ก็คงต้องดิ้นกันไปตามยถากรรม แต่ก็นะ เราทุกคนก็เกิดมาพร้อมมือสองข้างนี่แหละ ท่านของพวกเด็กฝาก ทั้งหลาย ก็เริ่มต้นด้วยสองมือนี่แหละ เราจะเป็น เด็กท่าน หรือ เป็น ท่าน ซะเอง คิดเอาครับ เอาล่ะ มาดูกันต่อ เอ๋ เผลอแปปเดียวมีครอบครัวซะละ แน่นอนครับ ก่อนหน้านี้ยังมีแค่เราคนเดียว ตอนนี้มีคนมาอยู่ด้วยเพิ่มแล้ว ภาระต่างๆมันก็มากขึ้นอ่ะเนอะ ยิ่งต้องยึดต้องถือ วางไม่ได้ วางแล้วพวกเขาเหล่านั้นจะเป็นไงนะ... ต่อมาก็เฒ่าก็แก่แล้ว อธิบายด้วยกลอนดีกว่าครับ ตัวเองพูดชัดจะน่าเบื่อล่ะ
ยามมีกิจ             หวังให้เจ้า           เฝ้ารับใช้
ยามป่วยไข้         เป็นหวังให้เจ้า      เฝ้ารักษา
ยามถึงคราว         ล่วงลับ                 ดับชีวา
หวังให้เจ้า           ปิดตา                 เวลาตาย

ผู้เฒ่าผู้แก่ท่านต้องการแค่นี้เอง ท่านเลี้ยงเรามาตั้งแต่เริ่มต้นของไทม์ไลน์แห่งการยึดมั่นนี้ เราทำแค่นี้จะได้ไหมครับ ลองๆคิดกันหน่อยนะครับ ก่อนที่จะไม่มีเวลาให้คิด และ ทำ ครับ
 อ่า.....
บัดนี้คงถึงเวลาที่ต้องปล่อยมือแล้วล่ะครับ ไทม์ไลน์คงเดินทางมาสุดแล้ว
“คนเราทุกคน เมื่อตายแล้ว ล้วนแบมือครับ เป็นสัญลักษณ์ว่า เขาเอาอะไรไปไม่ได้หรอก ครับ”
แต่....
ดินจะกลบลบกายวายสังขาร                         ไฟจะผลาญเผาซากสิ้นสาปสูญ
แต่ความดีมีอยู่คู่ค้ำคูณ                   ช่วยเทิดทูนแทนซากที่จากไป

แต่อย่าไรก็ตาม ณ ปัจจุบันนี้ นาฬิกาของเราท่านทั้งหลายก็ยังเดินอยู่ เดินตามที่มันควรจะเดิน บางท่านที่ยังเรียนอยู่ก็คงใกล้จะเปิดเทอมแล้ว บางท่านที่ทำงานแล้ว ก็คงได้กลับไปสู้งานหลังปีใหม่ไทย อย่างน้อยๆ ตอนนี้เราก็ยังหายใจ แม้ว่า เราจะไม่สามารถรู้ได้ว่า เราจะแบมืออย่างไม่มีวันกำได้อีก เมื่อไหร่ ที่ไหน อย่างไร สุภาษิตที่ยังคงใช้ได้ผลเสมอ เป็นอกาลิโก ไม่จำกัดกาลเวลา
“ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด”
ขอให้มีความสุขกับไทม์ไลน์ที่คุณเลือกเส้นทางแล้ว

ขอบพระคุณ:กลอนดีๆ จากนักปรัชญาจารย์โบราณ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น